วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ประเพณีวัฒนธรรม

 “กรือโต๊ะ” การละเล่นภาคใต้

               
            “กรือโต๊ะ” เป็นคำภาษามาลายู ใช้เรียกการละเล่นชนิดหนึ่ง ซึ่งทำจากลูกมะพร้าวแห้งกับไม้ใช้ตีให้เกิดเสียงดังเป็นจังหวะ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า คำว่า “กรือโต๊ะ” ไม่มีความหมาย แต่น่าจะเป็นชื่อที่แยกเลียนเสียงการตีอุปกรณ์ไล่นกชนิดหนึ่งเมื่อประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว เดิมทีนั้นเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านโต๊ะแบ ตำบลมะรือโบออก ในจังหวัดนราธิวาส ที่คิดค้นวิธีการไล่ ไก่ เป็ด และนก ไม่ให้มากัดกินเมล็ดพันธุ์ข้าวของชาวนา โดยการขุดหลุมกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร ลึก 25-30 เซนติเมตร แล้วนำไม้ไผ่ที่ผ่าครึ่งแล้วจำนวน 5 ท่อน นำมาพาดไว้บนหลุม 1 ท่อน เรียกว่า “ใบกรือโต๊ะ” ที่เหลือ 4 ท่อน นำมาปักที่ขอบด้านนอกหลุมให้ชิดกับใบกรือโต๊ะ เพื่อกันไม่ให้เคลื่อนที่ และใช้ก้านมะพร้าวเป็นไม้ตี เนื่องจากหาง่ายและให้เสียงที่ดังไปไกล ไล่นกได้ผลดี

          ต่อมาเมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องขยายพื้นที่ทำนาไปไกลๆ การขุดหลุมจึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก ที่สำคัญหากมีฝนตกก็ใช้การไม่ได้ ชาวบ้านจึงได้คิดค้นอุปกรณ์ไล่นกแบบใหม่ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ โดยเลียนแบบจากของเดิม มีการใช้ลูกมะพร้าวมาแทนการขุดหลุมเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน วิธีการคือ ใช้มะพร้าวที่ถูกกระรอกกัดกินเนื้อข้างในจนหมด โดยธรรมชาติแล้วกระรอกจะกัดบริเวณก้นของลูกมะพร้าวทีละนิด จนถึงเนื้อมะพร้าว แล้วกินเนื้อด้านในจนหมด จากนั้นมะพร้าวก็จะตกจากต้นเอง ชาวบ้านนำลูกมะพร้าวมาตัดก้นตรงที่กระรอกกัดกินออก โดยการตัดให้กว้างประมาณ 1 ใน 4 ของขนาดของมะพร้าว แล้วใช้รูปแบบเดียวกันกับการขุดหลุม คือ หงายส่วนที่ตัดขึ้น นำไม้ไผ่ผ่าครึ่ง 1 ท่อน มาวางพาดส่วนที่ตัดไว้ เรียกว่า “ใบกรือโต๊ะ” แล้วนำซี่ไม้ไผ่ 2 ท่อน มาผูกติดกับลูกมะพร้าวด้วยเชือกปักเป็นเสา 2 ข้าง ยึดใบกรือโต๊ะไว้ด้านใดด้านหนึ่ง ใบกรือโต๊ะอีกด้านให้เจาะรูแล้วยึดด้วยซี่ไม้ไผ่ขนาดเล็กปักไว้กับฐานรองและผูกยึดติดกับลูกมะพร้าวเช่นกัน ใช้ก้านมะพร้าวเป็นไม้ตี

          เมื่อมีการใช้กรือโต๊ะกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และเสียงกรือโต๊ะของแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ขึ้นอยู่กับลูกมะพร้าวและไม้ไผ่) เลยมีการจัดการประชันขึ้น จนกลายเป็นการแข่งขันที่มีกฎเกณฑ์ขึ้น 2 เกณฑ์ โดยทั่วไปแล้วจะดู 2 อย่าง คือ 1) ความสวยงามในการตกแต่งกรือโต๊ะ 2) ความดังและทำนองในการทำเพลง จากนั้นกรือโต๊ะก็กลายเป็นอุปกรณ์การละเล่นชนิดหนึ่งที่นิยมเล่น และส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในงานต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานมีของเล่นใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กรือโต๊ะค่อยๆ จากหายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากมาก

          เพื่ออนุรักษ์การละเล่นสมัยโบราณ ทางผู้ใหญ่บ้านโต๊ะแบ ม.3 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ โดยรวบรวมผู้อาวุโสในหมู่บ้าน จัดตั้งชมรมฟื้นฟูศิลปะโบราณขึ้น ประเดิมด้วยกรือโต๊ะที่มีการเปลี่ยนจากเดิมนิดหน่อย คือ เสา ใบ และไม้ตีจังหวะทำด้วยไม้สัก

อุปกรณ์และวิธีการเล่น
            กรือโต๊ะ เป็นการละเล่นชนิดหนึ่งของชาวไทยมุสลิม แหล่งที่นิยมเล่นกันมาก คือ แถบอำเภอแว้ง อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

            อุปกรณ์ในการละเล่นกรือโต๊ะ จะมีกรือโต๊ะซึ่งประกอบด้วย ๓ ส่วนด้วยกัน คือ ตัวกรือโต๊ะ เด๊าว์หรือใบ และไม้ตีตัวกรือโต๊ะ ทำจากไม้เนื้อแข็งที่เรียกว่า "ไม้ตาแป" จะเอาไม้ตาแปมาตากแดดให้แห้งสนิทแล้วนำมาตัดให้ได้ขนาดแล้วใช้สิวขุดให้เป็น หลุม ลักษณะของหลุมที่นิยมคือ หลุมปากแคบ และป่องตรงกลาง ภายนอกจะตกแต่งหรือกลึงอย่างสวยงามมีการทาสี สีที่นิยมทากันคือ สีฟ้า สีขาว สีเหลือง หรือทาน้ำมันชักเงาให้สวยงาม

            เด๊าว์ หรือ เรียกว่า ใบ หรือลิ้นเสียง จะทำจากไม้ตาแปที่แห้งสนิทดีเช่นเดียวกับกรือโต๊ะ กรือโต๊ะใบหนึ่ง ๆ มีเด๊าว์ ๓ อัน คือทำเป็นเสียงต่ำ เสียงกลาง และเสียงสูง อย่างละอัน ขนาดของเด๊าว์ยาวประมาณ ๒-๓ ฟุต กว้างประมาณ ๖-๘ นิ้ว ส่วนความยาวตามความชำนาญของผู้ใช้เล่น

            ไม้ตี ทำจากไม้เนื้อแข็ง ขนาดของไม้พอจับถือได้ถนัด ยาวประมาณ ๑ ฟุต ปลายด้ามที่ใช้ตี จะพันด้วยเส้นยางพาราเป็นหัวกลมขนาดโตกว่ากำปั้นเล็กน้อย

            วิธีการเล่นกรือโต๊ะ จะมีการตีกรือโต๊ะแข่งขันกันว่ากรือโต๊ะของใครจะมีเสียงดังกว่ากันและมี เสียงที่นิ่มนวลกลมกลืนกันและมีความพร้อมเพรียงกันในการตีกรือโต๊ะ

ที่มาของข้อมูล : กลองกรือโต๊ะ

7 ความคิดเห็น:

  1. ข้อมูลที่เผยแพร่ถือว่าเป็นข้อมูลที่ดี เนื่องจากไม่รู้ว่าภาคใต้มีการละเล่นแบบนี้ด้วย ยิ่งมีวิดีโอและรูปภาพประกอบทำให้ดูแล้วเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม

    ตอบลบ
  2. เนื้อหาดี เข้าใจง่ายตรงประเด็นมีรูปภาพพร้อมกับวีดีโอทำให้เข้าใจมากขึ้น ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาเข้าใจง่าย และเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่ได้รับจากบทความนี้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม

    ตอบลบ
  4. เนื้อหามีประโยชน์มากค่ะ อ่านเข้าใจง่าย มีวีดีโอประกอบด้วย ชอบมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  5. เป็นการละเล่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถือว่ามีประโยชน์มากเลยค่ะ

    ตอบลบ
  6. อยู่ภาคใต้มาหลายปีไม่เคยเห็นเครื่องเล่นนี้เคยค่ะ ถือว่าเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจมากๆ ทำให้รู้จักว่าภาคใต้เรามีความหลากหลายมากๆ

    ตอบลบ
  7. เนื้อหาดีมากค่ะ ขอบคุณที่แข่งปันเนื้อหาดีๆนะคะ

    ตอบลบ